ฉันเดินทางไป อำเภอตะกั่วป่า จ.พังงาครั้งนี้..ด้วยมีใจอาสา...อยากไปร่วมแบ่งเบาความทุกข์โศกหลังคลื่นยักษ์
ถาโถมและนำความเดือดเนื้อร้อนใจต่างๆ นานา มาสู่หัวใจของชาวบ้าน วันนี้บรรยากาศของสภาพแวดล้อม ตึกรามบ้านช่อง แตกต่างอย่างสิ้นเชิงหากเทียบกับความทรงจำเมื่อครั้งนั้นที่ผ่านมา…. แต่คงยากนักที่คนแปลกหน้าอย่างฉันจะหยั่งรู้ถึงความรู้สึกลึกๆ ที่อยู่ในใจของชาวบ้านว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่เมื่อสิ่งที่เห็นอยู่รอบตัวได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายขนาดนี้ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา
1 ปีสึนามิที่หาดบางเนียง….
26 ธันวาคม 2548 เวลา 19.00 น. ณ งานรำลึก 1 ปีสึนามิ ฉันยืนอยู่ที่ริมหาดบางเนียงด้วยเหตุจำเป็นบางอย่างหรืออาจเรียกว่าเป็นความบังเอิญของโชคชะตาก็ได้ ….
หาดบางเนียงวันนี้ รถติดอย่างไม่น่าเชื่อ
หาดบางเนียงวันนี้ เต็มไปด้วยคลื่นมหาชน
หาดบางเนียงวันนี้ สวยงามหรูหราเกินจะบรรยาย…
หาดบางเนียงวันนี้ คลื่นลมสงบ…ร่มเย็น
เมื่อพิธีเริ่ม…รำลึกแห่งความคิดถึง 1 ปีสึนามิ ผู้คนนับพันต่างมารวมตัวกันด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันไป
ฉัน…มาทำงานในมือถือเอกสารและดอกกุหลาบสีขาว (ได้รับแจกมา)
คนที่อยู่ด้านซ้าย….เป็นฝรั่งชายหญิงในมือถือโคมเทียน ยืนมองทะเล คงมาด้วยแรงคิดถึง ใครบางคน
คนที่อยู่ด้านขวา …เป็นคนไทยมุสลิมกลุ่มหนึ่งนั่งเรียงแถวอยู่ริมหาดในมือทุกคนถือโคมเทียน ก็คงมาด้วยใจคิดถึงใครบ้างคนด้วยเหมือนกัน..
กลุ่มคนด้านหน้า…เป็นกลุ่มคนขนาดใหญ่มากๆ นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่วางเรียงราย อยู่เต็มพื้นที่ ตามองไปยังเวทีเพื่อรับชมพิธีการและรอเวลาเพื่อรำลึกความหลังพร้อมๆกัน ในมือถือโคมเทียน ด้วยใจมุ่งมั่นและรอคอยเวลาแห่งการส่งความคิดถึงให้ใครบางคนด้วยเหมือนกัน
ด้านหลัง…เป็นทะเลและแผ่นฟ้ามืดสนิท
พิธีการเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการตามกำหนดการที่ทางผู้จัดได้วางไว้… ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ได้รับเชิญมาร่วมงานกล่าวแถลงและฝากความรู้สึกอาลัยกับเหตุการณ์ครั้งนั้น.… การรำลึกเริ่มขึ้นเมื่อโคมเทียนติดไฟและใจทุกดวงก็หล่อหลอมเป็นดวงเดียวกันเมื่อทุกคนหลับตาเพื่อไว้อาลัย ..แล้วผู้คนก็เงียบงันและพร้อมใจคิดถึงพร้อมๆ กัน…
บรรยากาศแห่งความอาลัยอาวรณ์อบอวลไปทั่วทุกพื้นที่ …ผู้คนเริ่มเดินมาที่หาดทรายเพื่อปักโคมเทียนลงบนพื้นทรายที่ละดวงๆ …แล้วโคมลอยที่ส่องแสงเหลืองนวลก็ทยอยลอยขึ้นฟ้าที่ละดวงๆเช่นกัน เพื่อเป็นตัวแทนแห่งความคิดถึง ….จากผู้คนที่อยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
โคมลอย ห้าพันดวงบนท้องฟ้าอาจเป็นตัวแทนแห่งความคิดถึงของคนกลุ่มหนึ่งที่บัดนี้ แววตาระยิบระยับไปด้วยโคมลอยห้าพันดวงเกลื่อนฟ้าและแก้มที่อาบไปด้วยน้ำตา..ของความคิดถึง มันทั้งสวยและเศร้าในเวลาเดียวกัน
หากแต่ในตาของใครบางคน โคมลอย ห้าพันดวงบนฟากฟ้าอาจถูกแปลงเป็นตัวเงิน ห้าพันล้านบาทที่จะกลับมาสู่ประเทศ..ให้สมกับที่ลงทุนไปเพื่อเรียกภาพลักษณ์ต่างๆกลับมา..อีกครั้ง
ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ความหวังกับงานรำลึก 1 ปีสึนามิที่หาดบางเนียงคงเป็นเปรียบเสมือนดังเมกกะโปรเจ็คท์ ที่จะเรียกคืนความมั่นคงและความมั่งคั่งทางธุรกิจท่องเที่ยวกลับคืนมา แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะไม่เป็นเช่นนั้น….เมื่อความร่วมมือต่างๆที่หวังว่าจะได้รับการตอบรับกลับเงียบหาย…และหลายอย่างที่วาดหวังไว้ก็ไม่ได้เป็นดั่งหวัง…ตาของใครบางคนอาจจะน้ำตาซึมได้ด้วยเหมือนกันเพราะความผิดหวังมากกว่าใจรำลึกเป็นแน่…
บรรยากาศดูเงียบเหงาและทวีคูณความซึมเศร้าขึ้นทุกขณะเมื่อโคมถูกปล่อยให้ลอยขึ้นฟ้าเรื่อยๆ ริมหาดเต็มไปด้วยน้ำตา แล้วความหลังต่างๆก็เข้ากัดกินหัวใจของใครหลายๆคน..
ฉันเองก็หยุดทำงานและยืนเงียบๆเพื่อซึมซับกับบรรยากาศเหล่านั้น เดินไปริมหาดวางดอกกุหลาบสีขาว 3 ดอกพร้อมอธิฐานขอให้ปีหน้า ไม่มีการจัดงานรำลึกเช่นนี้ขึ้นอีก เพราะความเศร้าไม่ควรย้ำกันบ่อยๆและคงไม่มีอะไรดีขึ้นมาหากต้องมาเศร้ากันอย่างนี้ซ้ำๆ เพื่อตอกย้ำความหลังที่ยากจะลืม…อย่างวันนี้
เป็นไปได้ที่งานในครั้งนี้ไม่ดังเปรี้ยงปร้างสมดังใจใครบางคน อาจจะมีเหตุผลมาจาก การหวังในเม็ดเงินมหาศาลบนความทุกข์โศกและคราบน้ำตาของชาวบ้านผู้ประสบภัยพิบัติก็เป็นได้ …ซึ่งคนที่จากไปคงรับรู้ถึงความทุกข์หลังเหตุการณ์ผ่านพ้นไปว่าคนที่เขารักและมีชีวิตอยู่รอดในขณะนี้ยังไม่ได้รับการเหลียวแลและเอาใจใส่อย่างแท้จริง จากผู้ที่เกี่ยวข้อง นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนภัยชั้นดีที่ถูกส่งไปสู่ภาครัฐให้ลองขบคิดและคำนึงถึงความทุกข์ยากลำบากของชาวบ้านในพื้นที่ดูบ้าง ..เพื่อให้คนที่จากไปได้สบายใจว่าคนที่เขารักสามารถอยู่ได้อย่างสบายทั้งกายและใจแล้ว(สักที)
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในปีหน้าคงไม่มีงาน รำลึก 2 ปีสึนามิขึ้นอีก…หากมันไม่ได้เกิดจากใจของการรำลึกที่แท้จริง….ก็ขอร้องว่าอย่าทำกินบนความเศร้าสลดของผู้คนอีกเลย….
บทความ : คุณนิ่ม กระจกเงา