www.OnToTour.CoM ขอแนะนำเว็บเกี่ยวกับ หัวหิน
© thailand-huahin.com เว็บนี่บอกภาพรวมของหัวหินได้ดีครับ
© huahin.go.th แผนที่ของ หัวหิน
© " หัวหิน " ฤาจะเป็นจังหวัดที่ 77 ของไทย ? บทความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ " หัวหิน "
ภาพโดย : www.thai-software.com
ตัวเมืองหัวหิน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 195 กิโลเมตร และอยู่ก่อนถึงตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ 90 กิโลเมตร ตลาด หัวหิน เป็นตลาดใหญ่มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และโรงแรมมากมาย การคมนาคมสะดวก มีบริการรถสามล้อ รถสองแถวรับจ้าง และรถเช่า ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในตัวอำเภอและสถานที่ใกล้เคียง ด้านทิศตะวันออกของตัวเมืองเป็นชายหาด มีทางลงหาดอยู่ที่ถนนดำเนินเกษม แยกซ้ายมือจากทางหลวงหมายเลข 4 บริเวณกิโลเมตรที่ 232 หาด หัวหิน มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ทรายขาวละเอียดเหมาะแก่การเล่นน้ำทะเล
เทศบาลเมือง หัวหิน เป็นที่ตั้งของเขตพระราชฐาน คือ วังไกลกังวล ซึ่งปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถประทับอยู่ เทศบาลเมือง หัวหิน เป็นเขตควบคุมมลพิษตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ( พ.ศ. 2539) และเป็นเขตพื้นที่ที่ใช้มาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2547
ประวัติเมืองหัวหิน
ก่อนหน้าที่ชื่อ หัวหิน ยังไม่เกิด มีเรื่องเล่าขานกันว่าราวปี พ.ศ. 2377 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พื้นที่เกษตรกรรมบางแห่งของเมืองเพชรบุรีแห้งแล้งกันดารมาก ราษฏรกลุ่มหนึ่งจึงทิ้งถิ่นย้ายลงมาทางใต้ จนมาถึงบ้านสมอเรียงซึ่งอยู่เหนือขึ้นมาจากเขาตะเกียบและบ้านหนองแกหรือบ้านหนองสะแก ที่บ้านสมอเรียงนี้มีหาดทรายชายทะเลแปลกกว่าที่อื่น คือมีกลุ่มหินกระจัดกระจายอยู่อย่างสวยงาม ทั้งที่ดินก็มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับทำไร่ทำนาการประมง บรรพชนเหล่านี้จึงเป็นเสมือนผู้ที่ลงหลักปักเสาสร้างบ้าน หัวหิน ขึ้น จนกลายเป็นหมู่บ้านที่เรียกกันแต่แรกว่า บ้านสมอเรียง
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศวรฤทธิ์ (พระองค์เจ้าชายกฤษดาภินิหาร ต้นราชสกุลกฤดากร) เป็นเจ้านายพระองค์แรกที่สร้างตำหนักหลังใหญ่ชายทะเลด้านใต้ของหมู่หิน (ปัจจุบันอยู่ติดกับโรงแรมโซฟิเทลฯ) และประทานชื่อตำหนักว่า แสนสำราญสุขเวศน์ ต่อมาทรงปลูกอีกหลังหนึ่งแยกเป็น แสนสำราญ และ สุขเวศน์ เพื่อไว้ใช้รับเสด็จเจ้านาย พร้อมกับทรงสร้างเรือนขนาดเล็กใต้ถุนสูงอีกหลายหลัง ซึ่งต่อๆ มาคือ บังกะโลสุขเวศน์ ทรงขนานนามหาดทรายบริเวณตำหนักและหาดถัดๆ ไปทางใต้เสียใหม่ว่า หัวหิน เป็นคนละส่วนกับบ้านแหลมหินเดิม โดยมีกองหินชายทะเลเป็นที่หมายแบ่งเขต ซึ่งบ้านแหลมหินเดิมมีเขตด้านใต้ถึงเพียงแค่ต้นเกดใหญ่ชายทะเล ( ปัจจุบันอยู่หน้าโรงแรมโซฟิเทลฯ มีศาลเทพารักษ์ใหญ่) เท่านั้น ไม่ถึงที่ดินของเสด็จในกรมฯ ครั้นเมื่อวันเวลาผ่านไป ชื่อ หัวหิน ก็แผ่คลุมทั้งหาดทั้งตำบลจนขยายเป็นอำเภอ หัวหิน
ส่วนที่ดินแปลงที่อยู่ตรงหมู่หินชายทะเล เป็นของสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ซึ่งทรงสร้างตำหนักใหญ่ขึ้นถึงสองครั้ง ครั้งแรกคือตำหนักขาว ครั้งหลังคือตำหนักเทาและเรือนเล็กอีกหลายหลัง ซึ่งก็คือบ้านจักรพงษ์ในเวลาต่อมา ปัจจุบันคือโรงแรมเมเลีย ซึ่งได้เปลี่ยนผู้ดำเนินการเป็นโรงแรมฮิลตัน
ในช่วงเวลาเดียวกันกับการสร้างพระราชวังไกลกังวล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ต้นราชสกุลบุรฉัตร ก็ได้จัดสร้างตลาดฉัตร์ไชยขึ้นในที่ดินพระคลังข้างที่ โดยออกแบบให้มีหลังคารูปโค้งครึ่งวงกลมต่อเนื่องกัน 7 โค้ง เพื่อสื่อความหมายว่าเป็นการสร้างขึ้นในรัชกาลที่ 7 ทั้งตัวอาคารและแผงขายสินค้าเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ตัวตลาดโล่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก และจัดว่าเป็นตลาดที่ถูกสุขลักษณะที่สุดของประเทศไทยในขณะนั้น ชื่อตลาดฉัตร์ไชยนี้มาจากพระนามเดิมของพระองค์ คือพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากรนั่นเอง ต่อมาตลาดฉัตร์ไชยและโรงแรมรถไฟ หรือโฮเต็ลหัวหินก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของชายทะเลหัวหิน ส่วนพระราชวังไกลกังวลนั้นถือว่าเป็นสถานที่อันควรสักการะบูชา มากกว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
นับตั้งแต่มีการสร้างทางรถไฟสายใต้แล้วเสร็จ เชื่อมต่อกับชายแดนของประเทศมาเลเซีย หัวหิน ก็มีชื่อเสียงว่าเป็นสถานที่พักตากอากาศอันลือชื่อของไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อน ว่ายน้ำ ตกปลา และตีกอล์ฟเนื่องจากมีสนามกอล์ฟ หัวหิน รอยัลกอล์ฟ ซึ่งจัดเป็นสนามกอล์ฟระดับมาตรฐานสากลแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย
ชื่อเสียงของ หัวหิน นั้น เติบโตเคียงข้างมากับโรงแรมรถไฟก็ว่าได้ ต่อมามีการสร้างบังกะโลขึ้นคือ เซ็นทรัล หัวหิน วิลเลจ ซึ่งได้ถูกคัดเลือกให้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง Devil's Paradise เช่นเดียวกับโรงแรมรถไฟ หัวหิน ซึ่งใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง The Killing Fields โดยเป็นการจำลองสถานที่คือ โรงแรมชั้นนำในกรุงพนมเปญในยุคสงคราม
เป็นไอเดียที่ไม่เลวเลย ถ้าท่านจะเริ่มต้นชมเมือง หัวหิน ด้วยสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ อย่างสถานีรถไฟ หัวหิน ซึ่งยังคงอบอวลไปด้วยสัมผัสและบรรยากาศแห่งอดีตในยุคปี พ.ศ. 2463 ซึ่งในยุคนั้นผู้คนต่างใช้รถไฟเป็นพาหนะในการเดินทางสู่หัวหิน ท่านที่โปรดปรานการถ่ายรูปไม่ว่าจะเป็นระดับมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพรับรองว่าไม่ผิดหวัง เพราะในสถานีรถไฟหัวหิน เต็มไปด้วยวิวและทำเลที่สวยงามเหมาะที่จะถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง
เดินเรื่อยๆ ไปทางตะวันออกบนถนนดำเนินเกษม จะเห็นรูปปั้นของโผน กิ่งเพชร (นักมวยชาวไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์โลกมาครองเป็นเกียรติประวัติของประเทศ) ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ทางด้านขวามือของถนน ตรงข้ามถนนเพชรเกษม เลยไปรษณีย์ไปเล็กน้อย มีร้านอาหารและภัตตาคารสไตล์ยุโรปโดยเฉพาะภัตตาคารอิตาเลียนมากมายหลายร้าน ล้วนแล้วแต่ตกแต่งสวยงามน่าแวะชมและแวะชิมทั้งสิ้น เลยไปอีกนิดจนเกือบจะสุดถนน ก็จะถึงสถานที่สำคัญของ หัวหิน อีกแห่งหนึ่งก็คือโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล (โรงแรมแห่งแรกของ หัวหิน ) ซึ่งมีทิวทัศน์งดงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แวดล้อมไปด้วยไม้ต้นไม้ดอกนานาพันธุ์ อย่าลืมแวะพักสักนิดที่พิพิธภัณฑ์คาเฟ่ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล และขอแนะนำให้ท่านใช้ทางเข้าด้านข้างและออกทางด้านทางเข้าหลัก จากด้านหน้าของทางเข้าโรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล (ถนน นเรศดำริ) ขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ก็จะถึงโรงแรมฮิลตัน ซึ่งเปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของ หัวหิน มามากกว่า 10 ปี อย่าพลาดจุดชมวิวชั้น 17 เพื่อชมทัศนียภาพ หัวหิน ที่แสนงดงาม ตกย่ำค่ำเดินตามแสงไฟไปเรื่อยๆ จะเจอทั้งภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านตัดเสื้อ ร้านขายของพื้นเมืองและของที่ระลึกมากมายอยู่เต็มสองฟากถนน ให้แวะพักหาอะไรรับประทานแก้หิวหรือช้อปปิ้งซื้อของฝากกันจนจุใจ สมกับที่ถนนช่วงนี้ถูกขนานนามว่า ไมล์ทอง พอผ่านโรงแรมฮิลตันไป จะเห็นมีตรอกเล็กๆ ทางด้านขวามือ ซึ่งเป็นทางนำไปสู่ลานชายทะเลซึ่งเป็นดาดฟ้าเรือสำหรับชมวิวใจกลางเมือง หัวหิน เดินตามทางไปจนสุดถนน จะถึงท่าน้ำตกปลาซึ่งเป็นจุดชมวิวเด่นอีกจุดหนึ่งของ หัวหิน ที่นี่ท่านสามารถชมทัศนียภาพของ หัวหิน ได้อย่างกว้างไกลเต็มสายตา กะเวลาให้เหมาะๆ แล้วลองแวะมาในช่วงเย็นๆ ก็จะได้มีโอกาสชมความงามยามอาทิตย์อัศดงที่สวยตรึงใจจนสุดบรรยาย ย้อนกลับไปยังถนนเดชานุชิต ซึ่งจะนำท่านไปยังตลาดโต้รุ่ง หัวหิน อันเลื่องชื่อ หากต้องการสัมผัสบรรยากาศการใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์แบบไทยๆ ช่วงเวลาที่ใช้ชมเมือง หัวหิน โดยประมาณ : 3 ชั่วโมง ระหว่างเดินชมเมือง หัวหิน รับรองว่าท่านจะพบร้านอาหารเหมาะๆ สำหรับแวะรับประทานอาหารเย็นอย่างแน่นอน หลังจากที่เดินชมตลาดกันจนเพลิน ก็อย่าลืมว่ายังมีสถานที่ต่างๆ บนเส้นทาง หัวหิน อีกหลายสายที่น่าแวะเที่ยวแวะชม ส่วนนักท่องราตรีทั้งหลายไม่ต้องกังวลเพราะในละแวกใกล้ๆ กันนี้ มีทั้งไนท์คลับ ผับและบาร์ให้ท่านแวะเข้าไปเฮฮายามราตรีได้ไม่มีเหงา
ลักษณะภูมิอากาศทั่วไป อำเภอ หัวหิน เป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในเขตร้อน ลักษณะภูมิอากาศจะถูกควบคุมโดยการหมุนเวียนของกระแสอากาศประจำฤดูกาล โดยฤดูกาลแบ่งได้ ดังนี้
- ฤดูร้อน ( กลางเดือน ก.พ. - กลางเดือน พ.ค.) ลมตะวันออกเฉียงใต้
- ฤดูฝน ( กลางเดือน พ.ค. - กลางเดือน ต.ค.) ลมตะวันตกเฉียงใต้
- ฤดูหนาว ( กลางเดือน ต.ค. - กลางเดือน ก.พ.) ลมตะวันออกเฉียงเหนือ
รถยนต์ มีรถโดยสารจากกรุงเทพฯ มายังอำเภอหัวหิน ดังนี้
รถโดยสารปรับอากาศ ชั้น 1 ของบริษัท หัวหินปราณฯ ทัวร์ รถออกทุก 45 นาที
รถโดยสารปรับอากาศ ชั้น 2 ของบริษัท ขนส่ง จำกัด ( บ.ข.ส.) และรถร่วม บ.ข.ส.
ตารางการเดินทางโดยรถยนต์โดยสาร
รถไฟ มีขบวนรถไฟที่แล่นมายังสถานีรถไฟหัวหิน ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาล เช่น
ขบวนรถไฟกรุงเทพฯ - สุไหงโกลก ( รถเร็ว )
ขบวนรถดีเซลรางธนบุรี - หลังสวน ( รถธรรมดา )
ขบวนรถด่วนพิเศษกรุงเทพฯ - ยะลา ( รถด่วนสปริ๊นเตอร์ )
ตารางการเดินทางโดยรถไฟ
เครื่องบิน
มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ หัวหิน จำนวน 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
ตารางการเดินทางโดยเครื่องบิน
ขอขอบคุณที่มา : www.huahin.go.th