Set Default Page Add to Favorites Send This Page to FriendReadyPlanet.com
dot
dot
Ontotour Licence 12 / 1192
dot
bulletใบอนุญาตนำเที่ยวของเรา
bulletเพื่อนบ้านของเรา
bulletMy Profile
bulletวิธีการชำระเงิน
dot
บอร์ดท่องเที่ยว - จองทัวร์
dot
กุ้ยหลินเมืองไทย + ดำน้ำหมู่เกาะชุมพร
dot
ท่องเที่ยว ภาคเหนือ
dot
bulletทีลอซู
bulletล่องแก่งน้ำเข็ก
bulletล่องแก่งน้ำว้า
bulletดอยอินทนนท์
bulletภูชี้ฟ้า
bulletปาย
bulletภูสอยดาว
bulletทุ่งแสลงหลวง
bulletภูทับเบิก
dot
ท่องเที่ยว ภาคกลาง
dot
bulletสวนรถไฟ
bulletสยามพารากอน
bulletหัวหิน
bulletเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
bulletบึงฉวาก
dot
ท่องเที่ยว ภาคอีสาน
dot
bulletภูหลวง
bulletภูกระดึง
dot
ท่องเที่ยว ภาคตะวันออก
dot
bulletเกาะช้าง
bulletเกาะกูด
bulletเกาะหมาก
bulletเกาะเสม็ด
bulletวังโบราณบนเกาะสีชัง
bulletโรยตัว น้ำตกธารรัตนา
dot
ท่องเที่ยว ภาคใต้
dot
bulletหมู่เกาะชุมพร
bulletหมู่เกาะสุรินทร์
bulletหมู่เกาะสิมิลัน
bulletหมู่เกาะตะรุเตา
bulletเขาสก
bulletเกาะเต่า เกาะนางยวน
bulletทะเลบัน
bulletทะเลใน
bulletคลองสองน้ำ
bulletถ้ำเลเขากอบ
dot
Link อื่นๆ
dot
bulletกรมอุตุนิยมวิทยา
bulletรวม Link การเดินทาง
bulletประมาณระยะทาง
bulletตรวจสอบเวลาทั่วโลก
bulletแผนที่ ท่องเที่ยว
bulletแผนที่เกาะทางภาคใต้
bulletตำแหน่ง อุทยานแห่งชาติ
bulletเบอร์อุทยานแห่งชาติ
bulletสอบถามข้อมูลท่องเที่ยว
bulletแจ้งเหตุฉุกเฉิน
bulletสมุดหน้าเหลืองออนไลน์
bulletรับปรึกษาทำ website
dot
โปรแกรมช่วง ก.พ.- พ.ค.
dot
bulletแพคเกจทัวร์ .. เกาะกูด 3D2N
bulletแพคเกจทัวร์ .. กระบี่
bulletน้ำตกทีลอซู จ.ตาก 2D1N
dot
โปรแกรมช่วง มิ.ย. - ต.ค.
dot
bulletทีลอซู .. ทริปเดินเท้า 3D2N
bulletแพคเกจทัวร์ล่องแก่งลำน้ำเข็ก
bulletเขาค้อ-ทับเบิก-ล่องแก่งลำน้ำเข็ก
bulletเชี่ยวหลาน+ดำน้ำชุมพร 3D2N
bulletเชี่ยวหลาน+ดำน้ำชุมพร 2D1N


ภาพบรรยากาศทัวร์ทีลอซู
ภาพบรรยากาศทัวร์เขาค้อ-ภูทับเบิก


ถ้ำน้ำแข็ง " แก้วโกมล " (เริ่ม) มัวหม่นเพราะใคร ? article

เพราะสวยงามปานถ้ำนำแข็ง พอททท.จึงโปรโมทให้เป็นอันซีนไทยแลนด์(ภาพ : ททท.)
       หลังเปิดตัวมาด้วยโฆษณาอันซีนภาคสอง(ชุดเด็กเลี้ยงแกะ)เมื่อ 2 ปีที่แล้ว "ถ้ำแก้วโกมล" แห่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็กลายเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวขึ้นมาในทันที เพราะถ้ำแห่งนี้มีความโดดเด่นตรงที่เป็นถ้ำผลึกแคลไซต์ 1 ใน 3 ของโลก(อีก 2 แห่ง พบที่จีนและออสเตรเลีย) ที่ภายในมีลักษณะคล้ายถ้ำน้ำแข็งซึ่งดูแล้ววิจิตรพิสดารราวกับเทพนิยาย
       
       ถ้ำแก้วโกมล เดิมเรียก"ถ้ำผลึกแคลไซต์แม่ลาน้อย" ตั้งอยู่บริเวณเขาดอยถ้ำ หมู่ ที่14 บ้านห้วยมะไฟ ตำบลแม่ลาน้อย อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นเขตประทานบัตรเหมืองแร่ฟลูออไรต์ของห้างหุ้นส่วนจำกัด พี . วี. ซัพ พลายส์ (ไทยแลนด์)
       
       ถ้ำแก้วโกมลถูกค้นพบโดยวิศวกรเหมืองแร่ประจำสำนักงานทรัพยากรธรณีของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2536 จากนั้นความงดงามของถ้ำแห่งนี้ก็ได้ถูกเปิดเผยขึ้น ด้วยสภาพภายในถ้ำที่เต็มไปด้วยผลึกแร่แคลไซต์มากมายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณผนัง พื้น และเพดาน ของถ้ำ ที่ดูประหนึ่งถ้ำน้ำแข็ง
       
       ในปี พ.ศ. 2538 กรมทรัพยากรธรณี ได้ทำการพัฒนาด้านความสะดวกและความปลอดภัยในการเข้าชมถ้ำ พร้อมกับดำเนินการกันเขตพื้นที่รอบถ้ำในรัศมี200เมตร ครอบคลุมเนื้อที่ 51 ไร่ ให้ออกจากพื้นที่ประทานบัตร และตั้งเป็น"วนอุทยานถ้ำแม่ลาน้อย"
       
       ในปี พ.ศ. 2544 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชินีนาถได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรถ้ำแห่งนี้ พร้อมๆกับได้พระราชทานนาม"แก้วโกมล"ให้ นอกจากนี้พระองค์ท่านยังได้พระราชทานนามห้องต่างๆ ใน ถ้ำแก้วโกมลซึ่งมีอยู่ภายในถ้ำ จำนวน 5 ห้องให้อีกด้วย

 
ถ้ำแก้วโกมลโด่งดังอย่างรวดเร็วหลังททท.โปรโมทเป็ฯอันซีนไทยแลนด์(ภาพ : ททท.)
       พระทัยธาร มีที่มาจากการที่น้ำในถ้ำ ละลายหินปูนไหลเหมือนเป็นธารน้ำตก
       
       วิมานเมฆ ตั้งตามลักษณะของแร่ที่อยู่ตามเพดาน ซึ่งดูคล้ายปุยเมฆ
       
       เฉกหิมพานต์ เกิดจากจินตนาการของพระองค์ท่านที่มองแล้วเหมือนอยู่ในป่าหิมพานต์ตามวรรณคดี
       
       ม่านผาแก้ว งดงามไปด้วยเนื่องจากผลึกแก้วใสขาวเกาะอยู่ราวกับม่านเต็มถ้ำ
       
       และส่วนชั้นในสุดคือชั้นที่เป็นอันซีนไทยแลนด์ มีชื่อว่า เพริศแพร้ว มณีบุปผา ซึ่งโดดเด่นไปด้วยผลึกแร่มีความละเอียดเป็นรูปเข็มคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง เปราะบาง แตกหักง่าย จัดเป็นผลึกที่ สวยงามและเด่นที่สุดของถ้ำ
       
       ช่วงแรกๆหลังถ้ำแก้วโกมลเปิดใหม่ๆ ถือเป็นถ้ำที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนกันน้อยมาก และเป็นนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม
       
       แต่เมื่อถ้ำแก้วโกมลถูกโปรโมทโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ให้เป็นอันซีนไทยแลนด์(2)ชื่อของถ้ำแก้วโกมลก็โด่งดังเป็นพลุขึ้นมาทันที เพราะจุดขายที่ชูถ้ำแห่งนี้เป็น"ถ้ำน้ำแข็ง"อันงดงามวิจิตรนั้นมันช่างเย้ายวนใจนักท่องเที่ยวหลายๆคนเสียเหลือเกิน
       
       ในขณะที่ความเป็นจริง ภายในถ้ำแก้วโกมลมีอากาศร้อนเหมือนอยู่ในห้องอบซาวน่า แถมมีออกซิเจนน้อยอีกต่างหาก
       
       อานิสงส์นี้ส่งผลต่อบ้านห้วยมะไฟ ที่แต่เดิมเป็นหมู่บ้านเล็กๆ นานๆจะมีโอกาสพบปะกับคนต่างถิ่นสักครั้ง มาวันนี้บ้านห้วยมะไฟกลายเป็นหมู่บ้านที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนและยวดยานมากมาย

 
การเที่ยวไม่ถูกวิธี ไม่ปฏิบัติตามกฎ และปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากเกินรับได้ ทำให้ถ้ำแก้วโกมลหมองหม่นลงเรื่อยๆ
       ในขณะที่นักท่องเที่ยวนับวันมีแต่จะเพิ่มปริมาณมากขึ้น แต่ถ้ำแก้วโกมลกลับรองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวนน้อยนิด เพราะถ้ำนั้นคับแคบและมีอากาศน้อย ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่นำชมถ้ำจึงต้องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ให้เข้าเที่ยวถ้ำๆเป็นรอบๆ ประมาณรอบละ 15 – 20 คน เพื่อป้องกันการแย่งอากาศหายใจ และที่สำคัญคือป้องกันมิให้เบียดเสียดกันจนเผลอไปแตะต้องแร่ ผลึก ภายในถ้ำจนเสียหาย หมองคล้ำ หมดประกายแวววาว
       
       ประยูร ทองศิริกุล หัวหน้าวนอุทยานแก้วโกมล กล่าวถึง เรื่องนี้ว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา เราต้องรอบรับนักท่องเที่ยวเฉลี่ยวัน ละ1,000คน ทั้งที่ภายในหนึ่งวัน เราสามารถพานักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม ได้สูง สุดเพียง800คนเท่านั้น
       
       "ในฤดูท่องเที่ยวเราห้ามนักท่องเที่ยวไม่ได้ บางกลุ่มมาเป็นคณะใหญ่ เราก็เข้าใจว่าไม่อยากแยกจากกัน แต่ด้วยพื้นที่มันจำกัดจริงๆ ถ้ำคับแคบ อากาศน้อย เมื่อเข้าไปมากก็แย่งกันหายใจ ทุกวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เพียงแต่ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยว บอกอยู่ตลอดว่ากฎของที่นี่เป็นยังไง เข้าไปอย่าสัมผัสผลึกในถ้ำนะ เดี๋ยวมันจะหยุดเจริญเติบโต หมดความแวววาว แล้วจะไม่มีถ้ำที่งดงามแบบนี้ให้ชมอีก นอกจากนี้เรายังมีคู่มือแจก เพราะอยากให้ทุกคนที่มาได้ความรู้กลับไปด้วย
       
       "เราอยากให้นักท่องเที่ยวที่มาได้เข้าชมกันหมดทุกคน แต่มันยากตรงที่ว่าเวลามากันเยอะๆ เจ้าหน้าที่มีอยู่ 5 คน อาสาสมัครอีก 15 คน รองรับนักท่องเที่ยวทั่วทุกสารทิศ ย่อมเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างเราต้องทำหน้าที่ดูแลรักษาถ้ำไปพร้อมๆ กัน ด้วย ความเสียหายที่อาจเกิดจากการสัมผัส ของนักท่องเที่ยว ถ้าไปโดนเข้าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ความใสวาวของหินตรงจุดนั้นย่อมหมองไป ยากจะเรียกคืน"
       
       ประยูรยังกล่าวต่อไปอีกว่า เรื่อง ความงดงามของถ้ำแก้วโกมลนั้น นักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ ซึ่งแวะมาเยี่ยม เยือนอยู่เสมอ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าแต่ก่อนสวยกว่าเดี๋ยวนี้เยอะ หินมี ความใสสกาว แต่ตอนนี้ถ้ำต้องตอนรับนักท่องเที่ยวทุกวันคราวละมากๆ เมื่อผลึกแร่ แคลไซต์ โดนทั้งแสงแฟลตจากกล้องถ่ายรูป ถูกสัมผัสจากนักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง หรือแม้แต่ลมหายใจของมนุษย์ ก็มีผลกระทบต่อความงามและการเจริญเติบโตของแร่ทั้งสิ้น
       
       "สำหรับตัวผมคิดว่าถ้ำแก้วโกมล ยังจะคงสภาพสวยงามแบบนี้อยู่อย่างน้อยก็ร่วมร้อยปี แต่ก็ต้องมีการพักถ้ำบ้างเพราะถ้าไม่พักถ้ำเลย ไม่เกินสิบปีความสวยก็เปลี่ยนไป ผมดีใจที่ถ้ำแก้วโกมลติดหนึ่งในอันซีนเมืองไทย ถ้ามองในแง่การท่องเที่ยว ชาวบ้าน มีงาน มีเงิน แต่ก็นั้นแหละเจ้าหน้าที่เราน้อย อาสาสมัครก็ไม่มีเงินเดือนให้ ทุกวันนี้ก็อาศัยเงินบริจาคจากนักท่องเที่ยวครั้งละ20บาท ถ้าหมดช่วงเทศกาลเราก็แย่เหมือนกัน

 
หากไม่ช่วยกันรักษาความงามของถ้ำแก้วโกมลคงจะเหลือแค่เพียงชื่อ
       "ปีนี้เราได้รายงานสถานการณ์ผลกระทบต่างๆ และขอความร่วมมือจากอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้ช่วยศึกษาผลกระทบจากภายนอกอยู่ หวังว่าจะหาทางออกได้โดยเร็ว ก่อนที่ถ้ำจะเสื่อมโทรม ยิ่งปีนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย ยังโปรโมตถ้ำแก้วโกมล ภายใต้ ชื่อว่า "1ใน 40 เส้นทางพิชิต1,000โค้งสู่ถ้ำ น้ำแข็ง" ก็แอบหวั่นอยู่ลึกๆ กลัวสภาพถ้ำจะเสียหาย และอยากให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย"
       
       ด้านไพโรจน์ อ่างทอง ผู้ช่วยหัวหน้าวนอุทยานแก้ว โกมล ได้กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า หลังการโปรโมทเป็นอันซีน ผู้คนก็หลั่งไหลมามากมาย เดิมมีคำบอกเล่าว่ามาที่นี่สวยงามดุจอยู่ในสรวงสวรรค์ แต่เพราะอยากอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว กรมทรัพยากรธรณียอมเสียความงามบางส่วน ขุดเจาะถ้ำทำเครื่องเป่าอากาศ และพบว่าแร่หมองคล้ำจึงหยุดไป สำหรับแสงไฟในถ้ำก็พยายามทำให้มีน้อยที่สุด
       
       "ถ้านักท่องเที่ยวเชื่อฟังและปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เป็นพันปีลูกหลานก็มีโอกาสเห็น ส่วนเรื่องเครื่องป้องกันเพื่อมิให้ผลึกแร่ ถูกสัมผัสนั้นตอนนี้อยู่ในขั้นเตรียมการวิจัยที่คิดไว้มี 2 แบบคือการครอบแก้ว ป้องกันแต่ก็จะมีปัญหาเรื่องไอน้ำร้อนเกาะ ส่วนอีกแบบคือตะแกงก็มีปัญหาเรื่อง ความสวยงามและยังต้องดูผลกระทบด้านอื่นอีก"
       
       สำหรับสิ่งที่ผู้คลุกคลีกับถ้ำแก้วโกมลสะท้อนมานั้น นักท่องเที่ยวสามารถร่วมด้วยช่วยกันในการเที่ยวถ้ำแก้วโกมลได้ด้วยการปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความงามและรักษาถ้ำแก้วโกมลไว้ตราบนานเท่านาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคำบอกเล่าของ 2 ผู้ดูแลถ้ำแก้วโกมลจะได้ยินไปถึงผู้ดูแลด้านการท่องเที่ยวบ้างหรือเปล่า เพราะที่ผ่านๆมารูปแบบการท่องเที่ยวไทยภายใต้ภาครัฐที่ดูแลด้านการท่องเที่ยวมักจะเน้นแต่เรื่องของการโปรโมท เน้นแต่เรื่องของตัวเลขและเม็ดเงิน โดยละเลยเรื่องแผนการรองรับนักท่องเที่ยว การจัดการสถานที่ท่องเที่ยว และละเลยเรื่องของการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สภาพแวดล้อม รักษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชน ซึ่งผู้บริหารงานด้านการท่องเที่ยวผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่ทรัพยากรท่องเที่ยวนั้นยังต้องอยู่กับเราไปอีกนานเท่านาน

ขอขอบคุณ  ที่มา : โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 มกราคม 2549 19:18 น.



ชื่อ
เบอร์โทรศัพท์
อีเมล
หัวข้อ
รายละเอียด
รหัสป้องกันสแปม



 *


Travel News!!

ขสมก. ชวนเที่ยว article
การกลับมาของปลาการ์ตูน article
ศึกษาเกาะสุรินทร์ article
ภูกระดึง...ใกล้ใจ ไกลตีน article
หลากหลายความเห็นกับ " กระเช้าลอยฟ้าภูกระดึง " article
เตรียมใจก่อนไป Siam Ocean Wolrd article
สยามพารากอน, สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล article
ท่องโลกใต้ทะเลแนวใหม่ ไปกับเรือดำน้ำ article
อันซีนฯ อันดามัน article
" ตะรุเตา " เกาะสวรรค์แห่งอันดามัน article
นานาทัศนะทะเลไทย ครบ 1 ปี หลังสึนามิ article
ประติมากรรมใต้ทะเล article
1 ปีสึนามิกับความแตกต่างทางอารมณ์ article
สุนทรภู่ article
รู้จักไม้มงคลประจำวันเกิดและราศีเกิด article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
ออนทูทัวร์

[ที่พักติดหาดปากน้ำหลังสวน : 99bayresort] [Facebook ออนทูทัวร์]

ค้นหาใน GOOGLE.CO.TH